green superfood powder blue spirulina powder psyllium husk powder ผงคาเคาแท้ organic ผงมะพร้าวสกัดเย็น ประโยชน์ของผักโขม รับประทานเพื่อเป็นยาบํารุงกําลัง และช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอย่างสม่ําเสมอ ใช้ในการช่วยบํารุง และเพิ่มปริมาณน้ํานม เหมาะสําหรับคุณแม่ลูกอ่อนที่มีน้ํานมไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูก รวมถึงผักโขมมีวิตามินเอ วิตามินซี ที่จะช่วยให้น้ํานมของคุณแม่หลังคลอดสมบูรณ์ขึ้น มีส่วนช่วยในการลดน้ําหนัก และลดความอ้วนได้เป็นอย่างดี เพราะการรับประทานผักโขมจะช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้เร็ว และนาน อีกทั้งยังช่วยชะลอการดูดซึมไขมันในร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจําเดือนสําหรับสตรี เนื่องจากผักโขม มีส่วนช่วยในการลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อในบริเวณช่องท้อง ใช้ในการบํารุงร่างกายสําหรับคุณแม่หลังคลอด และช่วยให้ทารกน้อยมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด เช่น โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งรังไข่ เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ เนื่องจากผักโขมมีฤทธิ์ช่วยชะลอการตายของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายเมื่อรับประทานเป็นประจํา อุดมไปด้วยโปรตีนสูง เหมาะสําหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ และต้องการให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน แต่ควรรับประทานควบคู่กับอาหารจําพวกเต้าหู้ถั่วเหลือง เพื่อให้ปริมาณโปรตีนที่ควรได้รับในแต่ละวันเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์ ช่วยบํารุงสุขภาพของดวงตา และช่วยป้องกันความเสื่อมที่อาจเกิดกับดวงตาได้ เนื่องจากมีวิตามินเอสูง มีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน พร้อมทั้งช่วยบํารุงกระดูก และฟันให้มีสุขภาพที่แข็งแรง เนื่องจากมีวิตามินซีสูง ช่วยในการกระตุ้นการขับถ่ายในแต่ละวัน เนื่องจากผักโขมอุดมไปด้วยไฟเบอร์ หรือกากใยอาหารปริมาณมาก เหมาะสําหรับสาวๆ ที่ต้องการบํารุงผิวพรรณ เพราะผักโขมมีสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการแก่ และตายของเซลล์ มีส่วนช่วยในการบํารุงระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานของระบบหัวใจ และลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจได้ ลดอาการเลือดออกตามไรฟันได้ เนื่องจากผักโขมมีส่วนประกอบของวิตามินซีในปริมาณสูง ป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุด เพราะผักโขมอุดมไปด้วยวิตามินเค แต่ผู้ป่วยที่รับประทานกลุ่มยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น aspirin, warfarin ไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก เนื่องจากฤทธิ์ของผักโขมจะไปต้านฤทธิ์กับกลุ่มยาต้านการแข็งตัวของเลือด ทําให้เลือดหนืดเกินไป ช่วยชะลอวัยทองผ่านสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่มีอยู่ในผักโขม รวมถึงชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ที่อยู่ภายในร่างกาย ประโยชน์ของผักโขม รับประทานเพื่อเป็นยาบํารุงกําลัง และช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอย่างสม่ําเสมอ ใช้ในการช่วยบํารุง และเพิ่มปริมาณน้ํานม เหมาะสําหรับคุณแม่ลูกอ่อนที่มีน้ํานมไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูก รวมถึงผักโขมมีวิตามินเอ วิตามินซี ที่จะช่วยให้น้ํานมของคุณแม่หลังคลอดสมบูรณ์ขึ้น มีส่วนช่วยในการลดน้ําหนัก และลดความอ้วนได้เป็นอย่างดี เพราะการรับประทานผักโขมจะช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้เร็ว และนาน อีกทั้งยังช่วยชะลอการดูดซึมไขมันในร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจําเดือนสําหรับสตรี เนื่องจากผักโขม มีส่วนช่วยในการลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อในบริเวณช่องท้อง ใช้ในการบํารุงร่างกายสําหรับคุณแม่หลังคลอด และช่วยให้ทารกน้อยมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด เช่น โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งรังไข่ เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ เนื่องจากผักโขมมีฤทธิ์ช่วยชะลอการตายของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายเมื่อรับประทานเป็นประจํา อุดมไปด้วยโปรตีนสูง เหมาะสําหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ และต้องการให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน แต่ควรรับประทานควบคู่กับอาหารจําพวกเต้าหู้ถั่วเหลือง เพื่อให้ปริมาณโปรตีนที่ควรได้รับในแต่ละวันเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์ ช่วยบํารุงสุขภาพของดวงตา และช่วยป้องกันความเสื่อมที่อาจเกิดกับดวงตาได้ เนื่องจากมีวิตามินเอสูง มีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน พร้อมทั้งช่วยบํารุงกระดูก และฟันให้มีสุขภาพที่แข็งแรง เนื่องจากมีวิตามินซีสูง ช่วยในการกระตุ้นการขับถ่ายในแต่ละวัน เนื่องจากผักโขมอุดมไปด้วยไฟเบอร์ หรือกากใยอาหารปริมาณมาก เหมาะสําหรับสาวๆ ที่ต้องการบํารุงผิวพรรณ เพราะผักโขมมีสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการแก่ และตายของเซลล์ มีส่วนช่วยในการบํารุงระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานของระบบหัวใจ และลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจได้ ลดอาการเลือดออกตามไรฟันได้ เนื่องจากผักโขมมีส่วนประกอบของวิตามินซีในปริมาณสูง ป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุด เพราะผักโขมอุดมไปด้วยวิตามินเค แต่ผู้ป่วยที่รับประทานกลุ่มยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น aspirin, warfarin ไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก เนื่องจากฤทธิ์ของผักโขมจะไปต้านฤทธิ์กับกลุ่มยาต้านการแข็งตัวของเลือด ทําให้เลือดหนืดเกินไป ช่วยชะลอวัยทองผ่านสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่มีอยู่ในผักโขม รวมถึงชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ที่อยู่ภายในร่างกาย