พระพิฆเนศ ทรงช้างเอราวัณ ขนาด บูชา ออกวัดแขก จ.กรุงเทพ เนื้อ ทองเหลือง
ส่งจาก : Lazada Thailand จัดส่งฟรี รีวิว : 0 stock : 0 ราคา : 4000.00 บาท คะแนน :
ช้างเอราวัณ ทองเหลือง
พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ: ด้วยการทดสอบที่เชื่อถือได้ปราศจากสารตะกั่วและแคดเมียมจึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ พระแม่ลักษมี
ทองเหลือง: ส่วนผสมสามชั้นน้ําหนักเบาทําจากผ้าฝ้ายโพลีเอสเตอร์และเรยอนนี้จะช่วยให้มันดูวินเทจย้อนยุค Heathered และสง่างามสัมผัสนุ่ม Tag Is Tearaway จ้า
ปิ่นโตทองเหลืองตอกลาย: จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์
พระพิฆเนศปางประทานพร: ด้วยเทคโนโลยีการบีบอัดที่เป็นนวัตกรรมใหม่พวกเขาจะไม่เหี่ยวแห้งหรือจางหายไปแม้ในขณะที่แช่แข็งหรืออุณหภูมิต่ําไม่จําเป็นต้องทําความสะอาดด้วยน้ํา พระพิฆเนศ
ทองเหลือง: ไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้จะไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียว พระพิฆเนศทรงช้างเอราวัณ ขนาด บูชา ออกวัดแขก จ กรุงเทพ เนื้อ ทองเหลือง ฐานกว้าง 5 นิ้ว ลึก 7.5 นิ้ว สูง รวมฐาน 12 นิ้ว ตํานานเศียรของพระพิฆเนศกับช้างเอราวัณ ตํานานนี้เป็นหนึ่งในตํานานอันลือลั่นที่กล่าวถึงความเกี่ยวพันของศีรษะขององค์พระพิฆเนศว่า ต้องไม่ใช่เศียรช้างธรรมดาแน่นอนที่ถูกนํามาต่อให้กับราชบุตรแห่งพระศิวะ ตํานานเล่าว่า พระคเณศนั้นถือกําเนิดมาจากความปรารถนาของพระอุมา เมื่อครั้นพระศิวะเจ้าเสด็จไปทําสมาธิจิตที่เขาไกรลาสเป็นเวลานาน เนื่องด้วยพระลักษมี บ้างว่าเป็นเทพนารีองค์อื่น ได้เสด็จมาเข้าเฝ้าเยี่ยมเยียนพระอุมา และ ได้กล่าวกับพระอุมาว่าเมื่อคราวมหาเทพศิวะไม่อยู่กับพระองค์นั้น พระองค์ก็เปรียบดั่งสตรีที่ไม่มีบุรุษปกปักรักษาป้องกันในเวลาปฎิบัติกิจส่วนพระองค์ ฉะนั้นพระอุมาจึงควรสร้างเทวบุตรขึ้นมาเพื่อปกป้อง และ คอยเฝ้าคุ้มกันเมื่อพระอุมาปฏิบัติกิจต่างๆ คือบําเพ็ญบารมีภาวนา เมื่อพระอุมาเห็นด้วยกับความคิดของพระลักษมี จึงได้ใช้ฤทธิ์แห่งศักติ ลูบพระวรกายแบ่งภาคออกเป็นทารกที่อ้วนท้วมสมบูรณ์ เปี่ยมไปด้วยกําลังวังชา และ เติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อครั้นเวลาผ่านไป พระศิวะออกจากสมาบัติก็เสด็จกลับมาหาพระอุมา เมื่อถึงหน้าทวารทางเข้าก็ได้พบกับเด็กคนหนึ่งมายืนขวางทาง ไม่ให้พระศิวะเข้าไปข้างในเนื่องจากไม่มีคําสั่งจากพระมารดา จึงทําให้พระศิวะทรงพิโรธมาก ตรัสสั่งให้นันทิ และ เหล่าเหล่าบริวารเข้าต่อกรกับพระคเณศ แต่ทั้งนันทิและเหล่าบริวารทั้งหลายก็พ่ายแพ้พระคเณศอย่างง่ายดาย พระนารายณ์ พระพรหมา และ เหล่าเทวดาต่างก็เสด็จมาช่วยพระศิวะต่อกรกับพระคเณศ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้กลับไป จนพระนารายณ์ทูลให้พระศิวะทรงใช้ตรีศูลเพื่อสังหารพระคเณศเสีย พระศิวะจึงได้ฟังพระวิษณุตรัสดังนั้นก็ทรงปฏิบัติตาม โดยพุ่งตรีศูลไปตัดเศียรพระคเณศขาดกระเด็นมอดไหม้ไป เสียงแห่งการสังหารพระคเณศนั้นดังกึกก้องไปทั้งสรวงสรรค์ ทําให้พระอุมาตกใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จึงเสด็จออกมาดู เมื่อมาเห็นเทวบุตรคเณศอยู่ในสภาพไร้เศียร ก็พิโรธด้วยอํานาจแห่งศักติจนสั่นสะเทือนไปสามโลก ว่า ทําไมเหล่าเทวาจึงต้องมารุมทําร้ายเด็กน้อย ไร้เดียงสา และ สังหารกุมารคเณศของพระองค์ด้วย ด้วยความโกรธแห่งพระศักติผู้เป็นบารมีอํานาจของจักรวาล พระอุมาได้แบ่งภาคออกเป็นพันๆ ภาคเพื่อจะสังหารเหล่าเทวดาทั้งหลาย และ ทําลายจักรวาลให้สูญสิ้นไป ทําให้สั่นสะเทือนปานจักรวาลจะล่มสลาย พื้นโลก สวรรค์ บาดาล นรก เริ่มแตกร้าว เหล่าเทวดาพากันหวาดกลัวไปตามๆ กันเพราะอิทธิฤทธิ์แห่งมารดาจักรวาลนั้นมหาศาลนัก เมื่อพระองค์ทรงเป็นโยนีผู้ให้กําเนิดจักรวาลอันความพิโรธโกรธกริ้วของพระอุมาย่อมทําลายจักรวาลลงได้ภายในพริบตา เมื่อพระนารายณ์เห็นเช่นนั้นจึงทรงเข้าไปขอขมาพระอุมา โดยทูลว่าการกระทําในครั้งนี้เหล่ามหาเทพ และ เทวดาทั้งหลายนั้นไม่ทราบมาก่อนจริงๆ ว่า พระคเณศคือเทวบุตรอันถือกําเนิดจากทิพย์ศิวา ศักติของพระอุมา ที่ทําไปเช่นนั้นก็เพื่อช่วยในการรักษาเกียรติแห่งพระศิวะเจ้า พระอุมาก็ยังหาความคลายพิโรธลง แต่ก็ตรัสกับมหาเทพทั้ง 3 และเหล่าเทวดาว่าให้คืนชีวิตและเศียรให้แก่เทวบุตรของพระองค์ในทันที พระมหาเทพทั้งสามก็รับปากจะคืนให้ แต่ติดที่ว่าฤทธิ์แห่งตรีศูลพระศิวะทําให้เศียรของพระคเณศนั้นมลายหายไปแล้ว นี่พระอุมายังยื่นคําขาดอีกว่าถ้าเทวบุตรไม่กลับคืนชีพ พร้อมมีเศียร พระอุมาก็เหมือนคนหมดทุกสิ้นทุกอย่างแล้วในจักรวาล เพราะความหวังและสิ่งที่รักยิ่งของมารดาทั้งหลายคือบุตร ฉะนั้นก่อนพระอาทิตย์อัสดงคตให้หาเศียรมาต่อให้พระคเณศให้จงได้ มิฉะนั้นพระอุมาจะทําลายจักรวาลทั้งปวงให้สิ้นไป เหล่าเทวดาต่างจนปัญญาที่จะหาเศียรมาต่อให้พระคเณศ ด้วยจะฆ่าสิ่งมีชีวิตเพื่อเอาเศียรมาต่อให้พระคเณศก็ไม่เป็นการสมควรที่เหล่าเทวดาจะกระทํากัน พระนารายณ์จึงตรัสข้อเสนอว่าอันพระเวทเปรียบกล่าวไว้ ว่าสิ่งมีชีวิตใดเมื่อเวลานอนแล้วหันศีรษะไปทางทิศตะวันตกก็เปรียบดั่งเสียชีวิตแล้ว ฉะนั้นให้เหล่าเทวดา แยกย้ายกันไปหาสัตว์ที่นอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก เมื่อเหล่าเทวาได้รับบัญชาแล้วก็รีบแยกย้ายกันออกค้นหาเหล่าเทวดาต่างก็รีบหากันตั้งแต่เช้าจน พระอาทิตย์จะตกดินแล้วก็ไม่พบอย่างที่พระนารายณ์ตรัสไว้ จนเกือบถึงเส้นยาแดงผ่าแปด ก็มาพบช้าเผือกเชือกหนึ่งนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตกพอดี จึงตรงเข้าไปตัดหัวของช้างเผือกนั้นเพื่อนํามาต่อให้พระคเณศ เมื่อพระศิวะทรงต่อเศียรให้พระคเณศ และ ชุบชีวิตให้แล้ว พระคเณศก็กลับมามีชีวิตดังเดิมทําให้พระอุมาหายพิโรธ โดยพระศิวะกล่าวว่าอันเศียรช้างที่หามาได้นี้หาใช่ช้างธรรมดาอันที่จริงคือ ปางหนึ่งของ ช้างเอราวัณที่ถูกสาปให้ไปเกิดเป็นช้างเผือกในโลกมนุษย์ เมื่อใดถูกตัดเศียรแล้วก็จะพ้นคําสาปและกลับคืนสู่อินทราโลก ฉะนั้นเศียรที่ได้มานี้จึงประเสริฐเปี่ยมไปด้วยกําลัง และ สติปัญญา และเมื่อเป็นการไถ่ความผิด เหล่าเทวดาก็ต่างให้พรพระคเณศต่างๆ นานา โดยพระศิวะให้พรว่าขอให้ พระคเณศจงอยู่เหนืออุปสรรคทั้งปวง ขอให้เป็นเทพเจ้าแห่งความสมดุล และ ความสําเร็จสมปรารถนาทั้งปวง พระนารายณ์ให้พรว่าขอให้ พระคเนศเป็นเทพเจ้าแห่งปัญญา และ การรจนาคัมภีร์ความรู้ทั้งปวง ด้วยเหตุนี้พลังอํานาจและพรอันประเสริฐจึงบังเกิดแด่พระพิฆเนศ พระองค์จึงทรงเก่งกาจที่สุดในบรรดาเทพทั้งหลาย และหากจะบูชาเทพองค์ใดๆ ในศาสนาพราหมณ์แล้วต้อ