ชื่อการค้า : ลูกทุ่ง เตี้ยสลาตัน
เครื่องหมายการค้า : แม็กซาโก้ เอกสารกํากับปุ๋ยเคมี
คุณสมบัติ : ประกอบด้วย ปริมาณธาตุอาหารรอง แมกนีเซียม(Mgo)............0.3% แคลเซียม(Cao)...............0.1% ปริมาณธาตุอาหารเสริม เหล็ก(Fe).......................0.1% แมงกานีส(Mn)................0.1% โบรอน(B).......................0.01%
ประโยชน์ : เป็นส่วนประกอบของคลอโรฟิลล์ หรือสีเขียวที่พืชใช้ในการสังเคราะห์แสงช่วยให้ ใบมีสีเขียวเข้มมากขึ้นช่วยในการสร้างพลังาน ดูดซึมอาหารต่างๆ ไปใช้ได้มากขึ้นช่วยในการเจริญเติบโตของต้นพืช และช่วยในการเคลื่อนย้ายธาตุฟอสฟอรัสในพืชเป็นโครงสร้างผนังเซล์ของพืช ทําให้พืชมีความแข็งแรงและช่วยในการ สร้างโปรตีน ช่วยขยายขนาดของผล และป้องกันไม่ให้ผล เถา หรือฝักแตก ทําให้เนื้อแน่นป้องกันแกนไส้นิ่ม รสชาติและสีดขึ้น ช่วยนการเคลื่อนย้ายน้ําตาลจากลําต้นใบมาสู่ผลและเมล็ด สามารถเก็บสะสมอาหาร ผลมีการพัฒนาการเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ ลดปัญหาการหลุดร่วงของผลไม้เป็นตัวสําคัญในกระบวนการหายใจของพืช มีส่วนในเมตาบอลิซึมของเหล็กและไนโตรเจนช่วยในการผสมเกสรดีป้องกันเมล็ดลีบ เพิ่มน้ําหนักทําให้พืช นําธาตุโพแทสเซียมและแคลเซียมไปใช้ได้ดีขึ้นมีบทบาทในการย่อยและสังเคราะห์โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตจําเป็นของท่อนิวเคลียของเรณู มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูดและคายน้ําและการสังเคราะห์แสง
พืชที่แนะนําให้ใช้และอัตราการใช้ : แตงต่างๆ ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา มะเขือต่างๆ ผักกาดหอม ไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ผล 50-60 ซีซี/น้ํา 20 ลิตร พืชตระกูลกะหล่ํา 50-60 ซีซี/น้ํา 20 ลิตร พืชหัว หอม แครอท มันฝรั่ง สับประรด 50-60 ซีซี/น้ํา 20 ลิตร ควรพ่นให้เป็นละอองเล็กๆ พอเปียกทั่วใบและทุกๆส่วนของพืช ทุกๆ 7-10 วัน นาข้าว ใช้ตั้งแต่อายุ 7 วันขึ้นไป จนถึงข้าวตั้งท้อง อัตราการใช้ 20-40 ซีซี ต่อน้ํา 20 ลิตร ฉีดบํารุงข้าว ทุกๆ 7-15 วัน คําแนะนํา ควรอ่านคําแนะนํา เอกสารกํากับปุ๋ยเคมีให้เข้าใจเสียก่อนทุกครั้ง หากไม่เข้าใจหรือมีปัญหาสงสัย ให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร และกรมส่งเสริมการเกษตรในท้องถิ่น เพื่อให้การใช้ปุ๋ยเคมีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และไม่ควรใช้เกินอัตราที่กําหนดเพราะจะเป็นอันตรายกับพืชได้ ข้อควรระวัง 1.โดยทั่วไปแล้วปุ๋ยเคมีพ่นทางใบ พืชใช้ประโยชน์ได้น้อย ควรเป็นปุ๋ยเคมีเสริมกับการใช้ปุ๋ยเคมีทางเงิน 2.ควรพ่นในเวลาเช้าหรือเย็น ในเวลาที่อากาศไม่ร้อน ลมไม่พัดแรง และคาดว่าฝนไม่ตก 3.ขณะที่พ่น พืชต้องไม่เหี่ยวเฉา หรือขาดน้ํา 4.การพ่น อย่าให้ถึงเปียกโชก เพราะจะทําให้เสียค่าปุ๋ยเคมีเพิ่มขึ้นและประสิทธิภาพปุ๋ยเคมีที่ใช้พ่นทางใบ เมื่อตกลงดินจะมีประสิทธิภาพเท่ากับปุ๋ยเคมีที่ใส่ทางดิน 5.ควรเก็บรักษาปุ๋ยเคมีในที่มิดชิด ในร่มและแห้งและควรเก็บปุ๋ยเคมีไว้ในที่ปลอดภัยห่างไกลจากมือเด็ก 6.ระวังอย่าให้ถูกผิวหนังหรือเข้าตา หากถูกผิวหนังหรือเข้าตา ควรล้างออกด้วยน้ําสะอาดทันที 7.ปุ๋ยเหลวอาจมีก๊าซเกิดขึ้น และอาจเป็นอันตรายได้ง่าย ควรเปิดด้วยความระมัดระวัง