"สิว" เป็นปัญหาที่กวนใจหลาย ๆ คน และเกิดได้จากหลายสาเหตุ หากสิวขึ้นแค่นาน ๆ ที เราก็สามารถใช้ยาแต้มสิวในบางครั้งได้ แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง แค่ยาแต้มสิวก็อาจไม่เพียงพอที่จะรักษาให้หายได้ จึงจะต้องระมัดระวังในการเลือกใช้สกินแคร์มากเป็นพิเศษ เพราะการเลือกสกินแคร์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้สิวเห่อมากขึ้นและต้องเลือกสูตรที่สามารถรักษาสิวได้ด้วย
หากใครที่ท้อแท้กับปัญหาสิวเพราะรักษาอย่างไรก็ไม่หาย ก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไปนะคะ เพราะวันนี้เราได้มี วิธีการเลือกสกินแคร์รักษาสิว ไม่ว่าจะเป็น คลีนซิ่ง, โทนเนอร์, เซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ รวมทั้ง 10 อันดับสกินแคร์รักษาสิว ยอดฮิตที่เรารวบรวมมาฝากกันด้วย มาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่า สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว ควรเลือกใช้สกินแคร์รักษาสิวแบบไหนบ้าง
สกินแคร์มากมายในท้องตลาดที่หลาย ๆ คนบอกว่าดี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะกับผิวหน้าของเรา ดังนั้น เรามาดูกันก่อนเลยว่า การเลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับปัญหาสิว ต้องพิจารณาจากสิ่งไหนบ้าง
แน่นอนว่าสกินแคร์ก็มีหลายประเภท ซึ่งบางตัวที่เราเลือกหากเป็นสูตรที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำใหเกิดสิวได้ ดังนั้นการเลือกสกินแคร์ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดทุกขั้นตอนก็จะช่วยให้ปัญหาสิวของเราลดลงได้
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า (Cleansing) เป็นขั้นตอนที่สำคัญและมองข้ามไม่ได้ เพราะสิวอาจเกิดจากเครื่องสำอาง, สิ่งสกปรก และมลภาวะที่เราต้องเจอมาทั้งวัน หากล้างหน้าไม่สะอาดสิ่งสกปรกเหล่านี้ก็จะสะสมและอุดตันที่รูขุมขนได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาสิวตามมา ดังนั้น จึงต้อง เลือกคลีนซิ่งและโฟมล้างหน้าที่สามารถกำจัดสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด และอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงจนเกินไป โดยสามารถดูจากส่วนผสมที่มีสารให้ความชุ่มชื้น และปราศจากสารที่ก่อให้เกิดอันตรายกับผิว เช่น SLS, SELS, น้ำหอม, สารพาราเบน, แอลกอฮอล์ และสีสังเคราะห์
หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว ก็ต้องใช้ โทนเนอร์ (Toner) ในการปรับสภาพผิวให้มีความสมดุล เพื่อเตรียมผิวหน้าให้พร้อมสำหรับสกินแคร์ตัวอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้สกินแคร์ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตัน แนะนำว่า ควรเลือกโทนเนอร์ที่มีประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวด้วย เพราะจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและความมันที่ยังคงตกค้างหลังจากการล้างหน้าออกได้ นอกจากนี้ แนะนำให้ลองมองหาโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าแห้งตึงจนเกินไปค่ะ
Essence และ Serum เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อเหลวและบางเบา เน้นแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด เพราะจะประกอบไปด้วยส่วนผสมเข้มข้น ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการเร่งแก้ไขปัญหาผิว และจะเห็นได้ว่าหลากหลายยี่ห้อก็ได้มี สูตรสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวโดยเฉพาะ โดยส่วนใหญ่จะช่วยแก้ไขปัญหารูขุมขนกว้าง และประกอบไปด้วยสารที่ทั้งช่วยลดและต่อต้านการอักเสบ จึงช่วยให้สิวยุบไว และยับยั้งการเกิดสิวใหม่ไปพร้อมกัน
ไม่ว่าจะมีสภาพผิวแห้งหรือผิวมัน ก็สามารถเป็นสิวจากสาเหตุที่ผิวขาดความชุ่มชื้นได้ทั้งนั้น หรือบางคนอาจจะเรียกว่าผิวมันขาดน้ำ เพราะเมื่อผิวขาดความชุ่มชื้นก็จะทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาทดแทนในปริมาณที่มากเกินไป จึงก่อให้เกิดปัญหารูขุมขนอุดตันและปัญหาสิวตามมา นอกจากนี้ ความชุ่มชื้นยังเป็นพื้นฐานที่ทำให้ผิวหน้าแข็งแรงมากขึ้น ทั้งยังเป็นตัวควบคุมความมันบนใบหน้าให้สมดุล ดังนั้น จึงควรเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติเติมเต็มความชุ่มชื้นและกักเก็บน้ำในผิวเป็นประจำทุกวันค่ะ
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว การเลือกสกินแคร์ที่อ่อนโยนอาจไม่เพียงพอ ดังนั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้สิวลดลง จึงต้องเลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมในการรักษาสิวประเภทต่าง ๆ ด้วยดังนี้
- สิวหัวขาว ใช้สกินแคร์ที่มีสารสกัดจากน้ำผึ้ง เพราะในน้ำผึ้งจะมีสารที่ช่วยยับยั้งการกระจายตัวของแบคทีเรีย
- สิวอุดตันและสิวเสี้ยน ใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือ BHA และสารกลุ่มวิตามิน A เนื่องจากเป็นสารที่ละลายได้ดีในน้ำมัน จึงช่วยขจัดสิ่งสกปรกในรูขุมขนออก แถมยังช่วยผลัดเซลล์ผิว เพื่อปกป้องสิวอุดตันที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย
- สิวอักเสบ ใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสาร Azelaic acid หรือสกัดจากธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้, ชาเขียว และน้ำมันทีทรี (Tea Tree Oil) ซึ่งจะมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยให้สิวยุบไวขึ้น
ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสัมผัสหนักอาจเป็นสาเหตุของรูขุมขนอุดตันได้ แถมยังรู้สึกไม่สบายผิวอีกด้วย ดังนั้นจึง ควรเลือกสกินแคร์ที่มีเนื้อบางเบาและซึมเข้าผิวได้ไว แต่แน่นอนว่าผู้ที่มีปัญหาสิวก็ต้องกังวลและลังเลในการเลือกใช้อยู่ดี จึงแนะนำว่าให้ มองหาสกินแคร์ที่ระบุไว้ว่าเป็น Non-comedogenic ซึ่งจะเป็นการบ่งชี้ว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้รับการทดสอบแล้วว่าไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับรักษาสิวโดยตรงค่ะ
นอกจากตรวจสอบส่วนผสมที่ช่วยรักษาสิวแล้ว ก็อย่าลืมเช็กส่วนผสมอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองด้วย เพราะสารบางชนิดถึงแม้จะไม่เป็นอันตรายต่อผิวและสามารถใส่ในสกินแคร์ได้ แต่สำหรับผู้ที่มีสภาพผิวแพ้ง่ายก็อาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้น เช่น สารกันเสีย (Paraben), สารแต่งสี, น้ำหอม และแอลกอฮอล์
นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมบางชนิดที่หลายคนอาจใช้ได้โดยไม่มีปัญหา แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว เช่น น้ำมันแร่ (Mineral Oil) และสารที่สกัดจากขนแกะ (Lanolin) เพราะความมันจากสารเหล่านี้จะไปเคลือบบริเวณผิวหนังชั้นบน ทำให้ปิดกั้นรูขุมขนไว้ จึงเกิดการสะสมของสิ่งสกปรกและไขมันใต้ผิวจนเกิดเป็นสิวอุดตันได้มากขึ้นค่ะ
มาถึงตรงนี้ ใครที่ยังลังเลและไม่มั่นใจในการเลือกสกินแคร์รักษาสิวอยู่ ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะเราได้รวบรวมสกินแคร์รักษาสิวตัวเด็ดทุกประเภทมาไว้ให้แล้ว จะมีตัวไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
ปัญหาสิวของคนส่วนใหญ่คือสิวที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ซึ่งจะตามมาด้วยรอยดำและรอยแดงซึ่งครีมหลอดนี้สามารถแก้ไขปัญหาที่ว่ามาได้ทั้งหมด ด้วยส่วนผสมของ LHA และ Salicylic Acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวออกอย่างเป็นธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดรอยดำและรอยแดงด้วย Procerad นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ Piroctone Olamine ที่มีคุณสมบัติลดการสะสมของแบคทีเรีย จึงไม่ทำให้สิวเกิดขึ้นซ้ำ เนื้อครีมบางเบา และเป็นสูตร Non-Comedogenic จึงมั่นใจได้เลยว่าไม่ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนอย่างแน่นอน
ปัญหาสิวในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย อาจจะกังวลในเรื่องของการเลือกสกินแคร์มากเป็นพิเศษ เราจึงขอแนะนำครีมบำรุงสูตรนี้เลยค่ะ ที่ผลิตออกมาเพื่อคนผิวบอบบางโดยเฉพาะ ด้วยส่วนผสมหลักจากใบบัวบกและ Niacinamide หรือวิตามิน B3 ที่ไม่เพียงแค่บำรุงให้ผิวชุ่มชื้น แต่ยังปลอบประโลมผิวให้มีความสมดุล ลดการเกิดเชื้อแบคทีเรีย และช่วยลดอาการอักเสบจากสิวอีกด้วย ที่สำคัญเนื้อสัมผัสยังบางเบาสุด ๆ และซึมสู่ผิวได้ไว เมื่อใช้ไปนาน ๆ ก็จะช่วยให้ผิวหน้าของเราแข็งแรงมากขึ้น
ออยล์เซรั่มตัวนี้ อุดมไปด้วยน้ำมันทีทรี ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีชื่อเสียงในการรักษาสิวและลดการอักเสบได้ดีมาก ๆ เพราะน้ำมันทีทรีประกอบไปด้วยสารที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย จึงช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวขึ้นซ้ำ และยังทำหน้าที่ปลอบประโลม ปรับสมดุลให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้นอีกด้วย ช่วยลดอาการอักเสบของสิวได้ และถึงแม้ว่าจะเป็นเซรั่มน้ำมัน ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดปัญหาอุดตันนะคะ เพราะเนื้อเซรั่มมีความบางเบา ซึบซาบลงสู่ผิวได้ไว และมี Salicylic Acid ที่ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ดีค่ะ
หากกำลังมองหาโทนเนอร์รักษาปัญหาสิวที่อ่อนโยน ก็ต้องขอแนะนำโทนเนอร์สูตรนี้เลยค่ะ ที่นอกจากจะช่วยปรับสมดุลให้ผิวเตรียมพร้อมในการบำรุงขั้นต่อไปแล้ว ยังมีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก ที่ทำหน้าที่ทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึก และทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น แถมยังช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ลดปัญหาสิวอุดตันและทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยฟื้นฟูให้ผิวชุ่มชื้นด้วยสารสกัดจากเมล็ดองุ่น และ ออร์แกนิค Essential Oil ที่อ่อนโยนต่อผิว
ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ, สิวเสี้ยน และสิวอุดตัน ก็สามารถจัดการได้ด้วยเจลล้างหน้าสูตรนี้เลยค่ะ เพราะจัดเต็มด้วยส่วนผสมที่รักษาสิวได้อย่างตรงจุดจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกรดซาลิไซลิก ที่เร่งผลัดเซลล์ผิวและความมันส่วนเกินออก มาพร้อมกับเหง้าขิงและกำยาน ช่วยกระชับรูขุมขนและบรรเทาอาการอักเสบของสิวได้ดี ทั้งยังปลอบประโลมผิวและยับยั้งการเกิดของแบคทีเรียด้วยสารสกัดจากเปลือกอบเชย ใช้แล้วรู้สึกเย็นสดชื่นสบายผิว และไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึงอีกด้วยค่ะ
บอกได้เลยว่าโทนเนอร์ตัวนี้เป็นไอเทมรักษาสิวตัวเด็ดที่หลายคนต่างก็บอกว่าใช้ได้กับทุกสภาพผิวและทำให้สิวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยส่วนผสมจากกรดผลไม้ Glycolic Acid 5% ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ช่วยให้ใบหน้าดูกระจ่างใสขึ้น ลดปัญหาสิวเสี้ยนและสิวอุดตันโดยไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึง เพราะมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ที่ให้ความชุ่มชื้น นอกจากนี้ ยังมีสารสกัดจากโสมแดงที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ลดอาการอักเสบของสิว ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้เพราะปราศจากแอลกอฮอล์และพาราเบนค่ะ
หลายคนอาจยังไม่คุ้นกับชื่อแบรนด์ Drunk Elephant มากนัก แต่ขอบอกเลยว่าแบรนด์นี้เป็นที่พูดถึงกันมากทางฝั่งยุโรป ด้วยส่วนผสมที่ถูกคัดสรรมาแล้วอย่างดี เพื่อแก้ไขปัญหาสิวได้อย่างตรงจุด อย่างเซรั่มตัวนี้ มีส่วนผสมของ AHA หรือกรดผลไม้ และ BHA ถึง 12% ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เรียบเนียนและดูกระจ่างใสขึ้น ทั้งยังช่วยทำความสะอาดรูขุมขน กำจัดสิ่งสกปรกตกค้าง ป้องกันการเกิดสิวอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมกับสารสกัด Horse Chestnut และชาขาว ที่ฟื้นบำรุงให้ผิวแข็งแรงและชุ่มชื้น
ทุกครั้งที่เราออกจากบ้านก็จะต้องเจอกับฝุ่นควันและมลภาวะต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของสิว จึงต้องป้องกันด้วยเอสเซนส์สูตรนี้ ด้วยส่วนผสมหลักจากชาดำหวานหมัก (Kombucha) ที่อุดมไปด้วยวิตามินมากมายที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ทั้งยังช่วยต่อต้านแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว และลดอาการอักเสบด้วยสารสกัดจาก Kigelia Africana นอกจากนี้ ยังมีสารสกัดจากเปลือกส้มแมนดารินช่วยผลัดเซลล์ผิวให้ดูกระจ่างใสอีกด้วย ใช้แล้วไม่ต้องกังวลเรื่องผิวแห้งตึง เพราะมีสารให้ความชุ่มชื้นด้วยค่ะ
เจลล้างหน้าสูตรนี้ ตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาสิวในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อฟองที่นุ่มละมุน ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวและช่วยลดการเกิดสิวในอนาคต พร้อมควบคุมความมันส่วนเกินในรูขุมขนด้วยสารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาลที่ถือเป็นอาหารผิวชั้นดี ทั้งยังช่วยปลอบประโลมผิว และลดอาการบวมแดงของสิวด้วยคาเฟอีน และสารสกัดจากราก Gentiana Lutea นอกจากนี้ ยังมี Salicylic Acid และ Acetyl Glucosamine ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากรูขุมขนอีกด้วย
โลชั่นตัวนี้ถือได้ว่าเป็น Best Seller เลยทีเดียว เพราะผู้ใช้จริงก็ต่างบอกว่า ใช้แล้วผิวหน้าแข็งแรงขึ้น แถมปัญหาสิวผดและสิวอุดตันก็ลดลงอีกด้วย เนื่องจากอุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด ซึ่งหลัก ๆ ก็คือเห็ดหลินจือ, เห็ดถั่งเฉ้า และเห็ดชาก้า (Chaga) ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และแลคโตบาซิลัสที่ทำหน้าที่ฟื้นบำรุงผิว ลดรอยแดงและอาการระคายเคืองได้ดี ทั้งยังให้ความชุ่มชื้นด้วยสารสกัดจากขิง, ขมิ้น และกะเพรา ซึบซาบสู่ผิวได้ไวโดยปราศจากแอลกอฮอล์
เป็นอย่างไรบ้างคะกับวิธีการเลือกสกินแคร์รักษาสิวและสินค้าที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ ซึ่งทางทีมงานมายเบสท์ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยให้ทุกคนมีกำลังใจในการรักษาสิวมากขึ้น และอย่าลืมว่าเมื่อสิวขึ้นแล้วก็ห้ามไปแกะหรือเกาเด็ดขาด เพราะอาจทำให้สิวเกิดการอักเสบที่รุนแรงมากขึ้น และอาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้ให้เราอีก
นอกจากนี้ ขอฝากไว้อีกสักเล็กน้อยว่าปัญหาสิวเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ หลายคนที่ประสบปัญหาเรื่องนี้ทั้ง ๆ ที่ดูแลรักษาทำความสะอาดและบำรุงผิวหน้าเป็นอย่างดีแต่ก็ยังมีสิวขึ้นมาอีกเรื่อย ๆ นั่นอาจเป็นเพราะปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียด, กรรมพันธุ์ และฮอร์โมน ซึ่งนอกจากการใช้สกินแคร์ที่เหมาะสมแล้ว แนะนำว่าอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังร่วมด้วยเพื่อหาสาเหตุ จะได้แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดค่ะ