มีของพร้อมส่ง ให้แสงแบบฟูลสเปคตรั้มครอบคลุมทุกย่านความถี่แสงตามแบบที่เลือก กินไฟเพียง 45W (input) แต่ให้พลังงานแสงถึง 1500W (Output) พร้อมกับจํานวน LED ไดโอดถึง 225pcs เสียบกับปลั๊กไฟบ้านได้เลย น้ําหนักเบา สามารถห่อยแขวนได้ะดวก รูปแบบสี่เหลี่ยม บางเพียง 7 มม จัดวางตําแหน่งแสงได้ง่าย LED ไม่ร้อนและให้อายุการใช้งานยาวนาน สําหรับสายปลูกในร่ม นักปลูกสายเขียว 420 ปลูกผัก ปลูกสมุนไพร ปลูกพืชต่างๆในร่ม ในโรงเรือน คุณสมบัติ ให้แสง full spectrum คลื่นแสงตั้งแต่ Royal Blue 400nm จนถึง Deep Red 660nm ใช้ UFO SMD LED Buldsที่ให้ความสว่างสูงและประหยัดพลังงาน ปล่อยความร้อนต่ํา แผงไฟบางเฉียบทําจากอลูมิเนียม ทําให้ระบายความร้อนจากไฟได้ดีเยี่ยม สายห่อยทําจากสแตนเลส เพิ่มความแข็งแรง น้ําหนักเบา ใช้พลังงาน( Input) 45W 220V ใช้กับไฟบ้านได้ปรกติ ปลดปล่อยพลังงานสูงสุดต่อ 1 หน่วยพื้นที่ 1000W (Output) ขนาด 31 x 31 x 0.7 cm น้ําหนักโดยประมาณ 434g จํานวน LED ทั้งหมด 225pcs แบบแสงแดง ฟ้า ส้ม ขาว Red 77pcs, Blue 47pcs, Warm white 77pcs, White 24pcs คลื่นแสงแบบ full spectrum ครอบคลุมทุกย่านความถี่แสง แน้นแสงฟ้าและแดง มีแสงเขียวนิดๆ มาปลูก (ต้นไม้) เถอะ (ข้อมูลการใช้แสงสําหรับนักปลูกสายเขียว) โดยปกติไฟแสงสีม่วง ที่ทํามาจากสีฟ้าและสีแดง แต่ปัจุบันมีงานวิจัยใหม่เกี่ยวกับแสงสีเขียว ก็มีผลต่อการสังเคราะห์แสงสูงกว่า 20% ทําให้เมื่อรวมสีเขียวเข้าไปในไฟสีน้ําเงินและแดง เราจะได้แสงสีขาวซึ่งดูเหมือนธรรมชาติและสบายตากว่าไฟสีม่วง สเปกตรัมของไฟปลูกบอกเราว่าในแสงของไฟปลูก มี “คลื่นแสงสี” อะไรอยู่บ้าง ซึ่งคลื่นแสงในแต่ละสีก็จะมีความยาวคลื่นที่แตกต่างกันไป แต่ต้นไม้นั้นจะสังเคราะแสงหรือตอบสนองได้ดีในช่วงที่เรียกว่า PAR หรือ PPF เราจะวัดกันตั้งแต่ 400 นาโนเมตร จนถึง 700 นาโนเมตร สําหรับการปลูกน้องต้นไม้ เราจะนิยมใช้แสงสีขาวอมเหลือง หรือ WarmWhite หรือ 3000K ถึง 3500K
จะมีปริมาณสีแดง:เขียว:น้ําเงิน อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม ปลูกได้แต่ตั้งแต่ทําใบจนถึงทําดอกเลยครับ ในขณะเดียวกันถ้าเราจะทําห้องทําใบ หรือห้องเลี้ยงต้นอ่อน เราก็จะใช้แสง 4000K หรือ 6500K เพื่อให้ได้ปริมาณแสงสีน้ําเงินที่มากขึ้น หรือถ้าใครอยากจะใช้แสง 2000K ถึง 2700K เพื่อเน้นเฉพาะช่วงทําดอก แบบนี้ก็ได้เช่นกันครับ ในช่วงทําดอก สิ่งที่สําคัญจะเป็นสีในช่วงสีแดงไปจนถึง infrared ตั้งแต่ 600nm – 1000mm เพื่อช่วยกระตุ้นในการสร้างดอกที่มีคุณภาพ โดยสีแดงที่ดีที่สุดจะอยู่ในช่วงประมาณ Red 600nm ถึง Deep Red 660nm ส่วนช่วง infrared จะให้แสง Far Red 730nm มีน้อยๆ ประมาณ 5 เปอร์เซ็น จะดีกว่าไม่มีมากๆ ช่วงนี้จะเกิดขึ้นในธรรมชาติเป็นประจําอยู่แล้ว เช่นแสงตอนช่วงที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ช่วงโพล้เพล้ ในช่วงทําใบ Royal Blue หรือ Deep Blue 450nm แสงสีน้ําเงินนั้นมีความจําเป็นมากพอๆกับสีแดง นอกจากจะเด่นในช่วงทําใบแล้ว ในช่วงทําดอกยังจะช่วยเร่งให้ดอกสุกได้เร็วขึ้นด้วย แต่ต้นใช้ในปริมาณที่น้อยกว่าสีแดงมากๆครับ ส่วนแสงในช่วง UV-A ถึง UV-B ในหลายๆงานวิจัยจะบอกไว้ว่า UV-A ช่วยทําให้ใบแข็งแรงขึ้นเล็กน้อย และ UV-B จะเพิ่มปริมาณน้ํามัน Cannabinoidและยังช่วยลด เชื้อรา ไล่แมลงได้
