ประคํา หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อฤาษีลิงดํา พระพรหมเนื้อผง ชั้น ไปวัด พระพุทธเจ้าเหนือพรหมพิมพ์ใหญ่ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก มีพระธรรมธาตุขึ้นทั่วองค์ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อ อุทัย จ พระนครศรีอยุธยา พระอริยะเจ้าผู้สั่งสมทศบารมีสายพระโพธิญาณ พุทธภูมิ ปรารถนาการเกื้อกูลสรรพสัตว์ที่ยังเวียนว่ายในสังสารวัฏ ที่เราเข้าใจกันโดยทั่วไปว่าหมายถึง พระโพธิสัตว์ ซึ่งเกี่ยวพันกับเรื่องราวของ สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปและเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายในภัทรกัปนี้ ทั้งยังเกี่ยวพันกับบารมีของ หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ พระหาโพธิสัตว์ที่จะอุบัติขึ้นเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป นั่นก็คือ พระศรีอริยเมตไตรย อีกด้วย ในส่วนนี้ผู้เขียนขอแค่พอเกริ่นให้ทราบถึงบารมีของ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ พระผู้สร้างตํานานสูตรปฐมพระผงมหาจักรพรรดิ ที่หลวงตาม้า หรือศิษย์สายบารมีอื่นๆ ได้ต่อยอดสร้างทําตามอย่างกันต่อๆ มา อย่างคร่าวๆ เพราะสูตรการสร้างพระผงมหาจักรพรรดิที่เริ่มต้นตั้งแต่ พิมพ์พระเหนือพรหม นี้ล่ะครับ ที่เป็นที่มาแห่งความอัศจรรย์ใจในพระพุทธคุณที่ประสิทธิ์ไว้ในองค์พระอย่างหลากหลายแง่มุม หมายรวมถึงในมุมมองของ พระธรรมธาตุ ที่ปรากฏขึ้นในองค์พระที่เป็นทั้ง พระธรรม และเป็นทั้ง พระธาตุ ด้วย ก่อนปี 2533 หากปรากฏพระธรรมธาตุขึ้นในพระเครื่องสูตรมหาจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่องค์ใด ลูกศิษย์ลูกหาและท่านที่ศรัทธาเป็นได้เสาะแสวงหาเพื่อนํามาบูชาติดตัวเป็นมหามงคลกับตนให้ได้ แม้พระเครื่องผงจักรพรรดิที่ขึ้นธรรมธาตุของหลวงตาม้าก็ยังมีการนําพระเครื่องของหลวงปู่ดู่องค์ที่ไม่ขึ้นพระธรรมธาตุมาขอแลกเปลี่ยนทีเดียวครับ หลวงตาม้า หรือ พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร ศิษย์บรรพชิตรูปสําคัญในปัจจุบันของหลวงปู่ดู่ ท่านได้ศึกษากรรมฐาน วิชาความรู้ต่างๆ จากหลวงปู่ดู่มามาก และสําเร็จวิชาเปิดโลกที่หลวงปู่ดู่ได้แนะนําถ่ายทอดไว้ให้แล้ว ทั้งหลวงปู่ดู่ยังได้มอบเหล็กจารของท่านให้กับหลวงตาม้าไว้ใช้เพื่อประโยชน์ต่อไปในภายหน้า จึงไม่น่าแปลกใจอันใดเมื่อหลวงตาม้า ท่านได้นําผงพุทธคุณและเกศาหลวงปู่ดู่ ฯลฯ มาสร้างตามสูตรผงจักรพรรดิหลวงปู่ดู่ แล้วปรากฏว่ามีพระธรรมธาตุบังเกิดขึ้นให้เห็นในพระชุดต่างๆ สูตรผงมหาจักรพรรดิ ดังตัวอย่างชุดที่ระลึกในการบูรณะวัดพระธาตุดอยกวางคํา จังหวัดลําพูน ปี 2543 ของหลวงตาม้า ซึ่งมีทั้งพิมพ์พระเหนือพรหมย้อนยุค และพิมพ์พิเศษที่เกิดขึ้นใหม่โดยทางสมาธิธรรมของท่าน ในลักษณะเป็นองค์พระซ้อนเยื้องกันแบบสามมิติ ประกอบด้วย พระพุทธ สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย หลวงปู่ทวด และหลวงปู่ดู่ โดยองค์ที่นํามาลงประกอบการศึกษานี้ เป็นองค์ที่ขึ้นพระธรรมธาตุอย่างชัดเจน ซึ่งพระรุ่นนี้เท่าที่เห็นล้วนมีพระธรรมธาตุปรากฎให้เห็นเป็นประจักษ์พยานธรรมตามคํากล่าวของหลวงปู่ดู่อย่างเที่ยงแท้แน่นอน การเกิดขึ้นของพระธรรมธาตุ จะเป็นด้วยเหตุปัจจัยใดนั้นจากสังฆประวัติ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ได้กล่าวถึงไว้ว่า คืนวันหนึ่ง ลูกศิษย์หลวงปู่ที่เป็นนักศึกษาชมรมพุทธฯ มธ ไปค้างคืนที่วัดสะแก พอถึงราว 4 ทุ่ม เมื่อหลวงปู่เข้าพักในกุฏิแล้ว พวกเขาก็พากันนั่งภาวนาต่อที่หอสวดมนต์ หนึ่งในผู้ปฏิบัติได้มีประสบการณ์ประหลาดอย่างหนึ่ง กล่าวคือ เขาเห็นนิมิตพระพุทธองค์ก้าวเดินออกมาจากพระประธานองค์ในสุด ก้าวมาได้สัก 3 ก้าว ก็หยุดยืน ขณะนั้น เขาเห็นตัวเองอีกร่างหนึ่ง ไปก้มลงกราบพระพุทธองค์ แล้วแบบมือทั้งสองขึ้นเหมือนจะรอรับอะไรบางอย่าง จากนั้น เขาก็เห็นพระพุทธองค์ประทานอะไรก็ไม่รู้มีลักษณะเป็นเกล็ดระยิบระยับโปรยปรายลงมาที่ฝ่ามือของเขา พอเกล็ดเหล่านั้นมาสัมผัสมือของเขา เขาก็เกิดอาการปีติทั่วสรรพางค์ร่างกาย เกิดความเอิบอิ่มอย่างมาก เมื่อเลิกปฏิบัติภาวนาแล้ว เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าสิ่งที่เขาประสบนั้นคืออะไร เช้าวันรุ่งขึ้น เขาจึงเข้าไปกราบหลวงปู่ แล้วเล่าถวายท่าน หลวงปู่พูดว่า ข้าโมทนากับแก นั่นเป็นของดี ของวิเศษ เขาถามต่อว่าสิ่งนั้นเรียกว่าอไรครับ หลวงปู่พูดว่า พระธรรมธาตุ พอหลวงปู่เห็นใบหน้าทึ่ง ๆ ของเขา จึงขยายความอีกนิดหนึ่งว่า เป็นทั้งพระธรรมด้วย เป็นทั้งพระธาตุด้วย เขารู้ว่าสติปัญญาของเขาขณะนั้นยังไม่พร้อมรับ ถึงหลวงปู่จะขยายความให้ลึกซึ้งกว่านั้นก็ตาม การเกิดพระธรรมธาตุในพระของหลวงปู่ดู่นั้น มีความเป็นอัศจรรย์คือ จะมีลักษณะของผลึกที่มีความแวววาว มีลักษณะคล้ายเพชร ศิษย์ของท่านเคยนําไปให้นักธรณีวิทยาใช้กล้องส่อง เมื่อส่องออกมาแล้ว เขาได้อธิบายในแง่ของทางวิทยาศาสตร์ว่า เป็นผลึกของแคลเซี่ยมซัลเฟต หรือ ผลึกของหินปูน ซึ่งการเกิดขึ้นนั้น หินปูนก็น่าจะมาจากผง หรือดินสอพองที่หลวงปู่นํามาเขียนเป็นอักขระคาถา แล้วก็ลบมาเป็นผงต่างๆ อันเกิดเป็นผลึกขึ้นมาได้ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เขาอธิบายไม่ได้ก็คือว่า ลักษณะของการเกิดผลึกเหล่านี้ จะต้องอาศัยความร้อนอย่างมาก ซึ่งเขาได้ถามศิษย์ท่านนี้ว่า ได้นําไปอบหรือไปเผาด้วยความร้อนสูงหรือไม่ ศิษย์ท่านนี้ก็ตอบว่า ใช้อุณหภูมิธรรมดา ดังนั้นจึงมีข้อสงสัยว่า แล้วความร้อนหรือเดลต้าฮีทนี้มาจากที่ไหน ศิษย์ท่านนี้ก็บอกว่า ควรจะมาจากพลังจิตของหลวงปู่ได้ไหม เพราะพลังจิตนี้แสดงออกมาในรูปของดิน น้ํา ลม ไฟเอง สําหรับผู้ที่ได้อภิญญาแล้ว พลังเหล่านี้ก็มาเปลี่ยนธาตุปูน ที่มีอยู่ในองค์พระให้เป็นผลึกขึ้นมา เขาก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นแล้วก็แปลว่าหมดสงสัย ว่าความร้อนนี้เกิดมาจากไหน ส่วนในเรื่อง เกศา หลวงปู่นั้น เมื่อนํามาส่องดูจะมีลักษณะ ใสตลอด ไม่มีความขุ่นมัวแม้แต่นิดเดียว สิ่งเหล่านี้แสดงถึงคุณธรรม ความบริสุทธิ์ หรือพลังของความบริสุทธิ์ สามารถเปลี่ยนธาตุ เปลี่ยนขันธ์ ให้กลายเป็นส่วนที่ใสขึ้นมาได้ ที่สําคัญครับ ศิษย์หลวงปู่ท่านนี้โชคดีที่ได้รับฟันของหลวงปู่ ซึ่งท่านมอบให้โดยกล่าวไว้ว่า เก็บไว้ให้ดี ถ้าหายไปก็ไม่มีของแทนแล้ว ลองตรวจดูซิว่าใช้ประโยชน์ทางไหนได้บ้าง ศิษย์ท่านนี้ตอบท่านว่า ไม่หรอกครับ เสกมาไม่รู้กี่ปีแล้ว หลวงปู่กล่าวว่า ไม่ใช่ อยากรู้เคล็ดลับว่ามีอะไร ศิษย์ท่านนี้จึงตอบท่านว่า ที่รู้ๆ ก็คือ พระธาตุ หลวงปู่สรุปว่า เรื่องพระธาตุน่ะ แน่น