สร้อย คอ เงิน ห้อย จี้
ผู้หญิง: โปรดใส่ใจกับตารางขนาดในภาพเพื่อให้ได้ขนาดที่พอดีที่สุด-ดูที่ชาย/หญิงเพื่อค้นหาความพอดีผู้ชายส่วนใหญ่ สร้อย คอ 3 บาท
ผู้หฐิง: กระเป๋าเงินใบนี้มีขนาดประมาณ 3.75X3.75X0.75 นิ้ว (ยาว X กว้าง)
เครื่องประดับลิเก: อัลบั้มรูปสามารถวางไว้ในแนวนอนหรือแนวตั้งซึ่งช่วยตอบสนองความต้องการในการจัดเก็บของคุณ
สร้อยคอทองคําขาว: กระเป๋าสตางค์เงินสดนี้มีช่องใส่เงินสด 2 ช่องกระเป๋าซิป 1 ช่องมีพื้นที่เพียงพอสําหรับใส่บัตรเครดิตบัตรประจําตัวประชาชนใบขับขี่บัตรเครดิตบัตรเดบิตและบัตรสมาชิก
หมาพันธุ์ปั๊ก: นี่คือกล่องถุงมือที่ทนทานและใช้งานได้หลากหลายซึ่งหมายความว่าสามารถรักษารูปร่างของพวกเขาได้ พระสมเด็จ บางขุนพรหม พิมพ์ปั๊กกะเป้าว่าวจุจุฬ า พิมพ์เล็ก พระพิมพ์นี้ หลวงรอบรู้ท่านว่า หายากยิ่งกว่างมเข็มในมมหาสมุทร หรือยากกว่างมหาเพชรบลูไดม่ม่อน ที่ชีโรสแห่งไททานิคที่งในมหาสมุทรอีก พุทธคุณเมตตามหานิยมเป็นที่สุด ทําออะไร จะสําเร็จติดลมบน เหมือนว่าจุฬาติดลมบน ขึ้นหม้อ พระเครื่องเนื้อผง พระเครื่องเนื้อผงพุทธคุณ ซึ่งได้รับการยอมรับและยกให้เป็นจักรพรรดิ์ของพระเครื่อง นั่นก็คือที่สร้างโดย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี อมตะเถระแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งท่านได้รังสรรค์สร้างพระเครื่องประเภทพระสมเด็จชิ้นฝัก สร้างขึ้นมาจากเนื้อผงพุทธคุณ กรรมวิธีในการสร้างพระเครื่องประเภทเนื้อผง สําหรับพระเครื่องเนื้อผงนั้น มวลสารหลักที่ใช้ในการจัดสร้างได้แก่ ปูนเปลือกหอย ซึ่งการสร้างพระเครื่องจากเนื้อผงนี้ถือเป็นศิลปแขนงหนึ่งในเชิงช่างการปั้นปูน ซึ่งปูนที่นํามาปั้นเป็นพระเครื่องเนื้อผงนั้นหลักๆ ก็มาจากเปลือกหอยและประสานเนื้อหามวลสารต่างๆ ด้วย ยางไม้ น้ําอ้อย หรือขี้ผึ้งชั้นดี สําหรับพระเครื่องเนื้อผงที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดที่สามารถหาข้อมุลได้นั้นได้แก่ พระเนื้อผง กรุทัพข้าว จ สุโขทัย รองลงมาก็คือ สมเด็จอรหัง วัดมหาธาตุ พระนคร ซึ่งสร้างโดย สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และพระสมเด็จอรหังนี้ถือเป็นต้นแบบในการสร้างพระเนื้อผง รูปทรงสี่เหลี่ยมชิ้นฟัก ซึ่งสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณปี ๒๓๖๐ สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน นี้ ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง และถือเอาวัตรปฏิบัติ ตลอดจนวิธีการสร้างพระของสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน นี้มาสร้างสมเด็จวัดระฆัง สมเด็จบางขุนพรหม และสมเด็จเกศไชโย อันนับเป็นพระเนื้อผงที่ได้รับความศรัทธานิยมสูงสุดมาโดยตลอด กรรมวิธีการจัดสร้างพระเนื้อผงที่มีมาแต่โบราณกาลนั้น จะมีกรรมวิธีและขั้นตอนหลักๆ ๒ ขั้นตอน ประกอบไปด้วย ๑ การเตรียมวัตถุดิบ เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าเนื้อหามวลสารหลักที่นํามาใช้ในการจัดสร้างพระเนื้อผงได้แก่หรือที่มักจะเรียกกันว่าก็ได้ โดยขั้นตอนของการเตรียมผงปูนขาวนั้น จะนําเอาเปลือกหอยที่จัดเตรียมมานํามาเผาไฟ จากนั้นจะนํามาตําและบดให้ละเอียด จะได้เป็นผงที่ถือว่าเป็นวัตถุดิบหลัก ผงที่ได้จากขั้นตอนนี้เราจะเรียกว่า ผงปูนเปลือกหอย หลังจากนั้นจะทําการจัดเตรียมมวลสารที่เป็นมงคลอื่นที่นํามาเป็นส่วนผสมสําหรับคลุกเคล้ากับผงปูนเปลือหอย อาทิเช่น ว่านดอกไม้ แร่ทรายเงินทรายทอง วัตถดิบศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ของทนสิทธิ์ เศษพระเครื่องเนื้อดินที่เป็นพระกรุในจังหวัดกําแพงเพชร ตามตํารากล่าวว่าพระสมเด็จ วัดระฆังโฆสิตาราม นั้นท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ท่านได้นําเอาเศษพระกําแพงซุ้มกอ ที่หักนํามาตําและบดผสมในเนื้อพระสมเด็จ วัดระฆังโฆสิตาราม เป็นต้น ก็จะนําเอามวลสารประกอบดังกล่าวมาตําและบดให้ละเอียดเช่นเดียวกัน เมื่อได้ผงทั้ง ๒ ส่วนแล้ว จะนําเอามาผสมกับผงวิเศษ ๕ ประการ ซึ่งจะขอกล่าวในหัวข้อถัดไป จากนั้นคลุกเคล้ามวลสารต่างๆ ให้เข้ากันดี และนําเอากล้วยน้ําว้า น้ํามันตั้งอิ๊ว น้ําอ้อย ยางไม้ หรือขี้ผึ้งชั้นดี อะไรก็ได้สุดแล้วแต่จะหาได้หรือตามสูตรการสร้างพระเครื่องที่ได้ร่ําเรียนมา เพื่อใช้เป็นตัวยึดประสานเนื้อหามวลสารที่เป็นผงต่างๆ ให้จับตัวรวมกันเป็นก้อน เพื่อสะดวกแก่การนําไปปั้นขึ้นรูป หรือกดกับแม่พิมพ์พระเครื่อง ต่อไป ย้อนกลับมากล่าวถึงการทําผงวิเศษ สําหรับผงวิเศษนี้ เป็นกรรมวิธีการทําที่จะต้องใช้ความมานะอุตสาหะเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้องเขียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ ลงบนกระดานชนวนและเมื่อสําเร็จก็ลบ แล้วรวบรวมผงที่ลบเสร็จปั้นเป็นก้อนดินสอสําหรับเขียนใหม่ กระทําซ้ําเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าได้จะปริมาณผงวิเศษตามที่ต้องการ ซึ่งพระเกจิอาจารย์ที่ถือว่าเป็นต้นแบบของการเขียนลบผงวิเศษนั้น ได้แก่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ผู้สร้างพระสมเด็จอันสูงค่ายิ่ง ส่วนกรรมวิธีการเขียน-ลบ ผงวิเศษ มีดังต่อไปนี้ การทําผงวิเศษ ขั้นตอนการทําผงวิเศษจะเริ่มจากเรียกสูตร คําว่าก็คือ การเขียนอักขระเลขยันต์ นานาประเภท อันประกอบไปด้วย การบริกรรมสูตรพระคาถาต่างๆ ตามจังหวะของการเขียนอักขระเลขยันต์นั้นๆ ด้วย ดินสอผงวิเศษ ซึ่งดินสอผงวิเศษนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากส่วนประกอบของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ อาทิเช่น ดินโป่ง ๗ ป่า ดินที่มีเกลือสินเธาว์ผุดเกรอะกรัง มีพบอยู่ตามป่าทั่วไป) ดินตีนท่า ๗ ดีนท่า ดินท่าน้ํา ๗ ท่าน้ํา) ดินหลักเมือง ๗ หลักเมือง ขี้ไคลเสมา ขี้ไคลประตูวัง ขี้ไคลเสาตะลุงช้างเผือก ยอดสวาท ยอดรักซ้อน ดอกกาหลง ดอกราชพฤกษ์ น้ํามัน ๗ รส น้ํามันที่ได้จากของ ๗ ประเภท จะเป็นพืชหรือสัตว์ก็ได้ ยิ่งหายากยิ่งดี และดินสอพอง เป็นต้น เอาส่วนผสมทั้งหมดมาผสมรวมกันแล้วบดให้ละเอียด นํามาผสมเจือกับน้ําเพื่อปั้นเป็นแท่งดินสอไว้สําหรับเขียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ เมื่อได้แท่งดินสอผงวิเศษแล้ว จะเข้าสู่กรรมวิธีการทําผงวิเศษ ที่จะต้องกระทํากันในพระอุโบสถ โดยจัดเตรียมเครื่องสักการะบูชาคุณครูบาอาจารย์ทั้งหลายตามที่ได้รับการประสิทธิประสาทมา เมื่อพร้อมแล้วจะเริ่มต้นเข้าสู่การเขียน-ลบ ผงเพื่อทําผงวิเศษ โดยมีลําดับในการเขียนอักขระเลขยันต์และลบทําผง
ดังต่อไปนี้: ๑ ๑ ผงป