นอกจากอาหารหลักแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่น้องแมวทุกตัวต้องการ คือ “ขนม” เพื่อช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของ โดยปัจจุบันมีหลายสูตรให้เลือก เช่น แบบครีมมี่, ขนมเคี้ยวกรุบกรอบ หรือจะแบบเนื้อสัตว์อบแห้ง แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าน้องเมี๊ยวของเราชื่นชอบแบบไหนหรือควรทานรุ่นใดเป็นพิเศษ วันนี้ผู้เขียนจึงรวบรวมคำตอบมาให้ทาสแมวได้อ่านกัน ผ่านเนื้อหาที่น่าสนใจ 2 ส่วน ดังนี้ค่ะ
ส่วนแรกเราจะพูดถึง “วิธีการเลือก” ซึ่งแปลมาจากต้นฉบับบทความภาษาญี่ปุ่น เพื่อให้เพื่อน ๆ เข้าใจผลิตภัณฑ์นี้กันมากขึ้น และลำดับต่อมา “10 อันดับสินค้ายอดฮิตขายดี” ที่ผ่านการเปรียบเทียบทั้งจากคุณสมบัติ, ราคา และรีวิว แค่เกริ่นก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นอย่ารอช้า ตามไปอ่านกันเร็วค่ะ
จากที่เราได้เกริ่นไปว่าขนมแมวมีมากมายหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีเนื้อสัมผัสและรสชาติที่ต่างกันออกไป เราควรจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับน้องเมี๊ยวที่บ้าน ไปอ่านกันเลยค่ะ
ขนมแมวแบ่งออกเป็น 7 ประเภทด้วยกันค่ะ โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน จึงเหมาะกับแมวที่อายุ รวมไปถึงอุปนิสัยและควาบชอบต่างกันด้วย ซึ่งผู้เขียนได้อธิบายอย่างละเอียดไว้ด้านล่างนี่แล้วค่ะ
แบบแห้งนี้มีลักษณะคล้ายกับอาหารเม็ดที่ให้น้องแมวทานเลยค่ะ แตกต่างกันที่ภายในจะมีลูกเล่นมากกว่า เช่น สอดไส้อาหารให้รสชาติต่าง ๆ จึงควรให้เป็นรางวัลเมื่อน้องแมวทำตัวน่ารัก เช่น เข้าห้องน้ำตามที่ที่จัดไว้หรือหลังตัดเล็บ นอกจากนี้อีกหนึ่งข้อดีคือ “ช่วยขจัดคราบพลักซ์” ที่เกาะอยู่ตามฟันของน้อง ๆ นั่นเองค่ะ
แบบเปียกจะค่อนข้างมีส่วนประกอบของน้ำเยอะ ทำให้เนื้อสัมผัสนิ่ม ช่วยให้เคี้ยวง่าย เหมาะกับแมวที่อายุมาก ส่วนจุดเด่นจะอยู่ที่ “กลิ่น” เช่น กลิ่นทูน่า, กลิ่นแซลม่อน หรือกลิ่นหอยเชลล์ กระตุ้นให้น้องแมวอยากทาน ถือเป็นประเภทที่ถูกอกถูกใจเจ้าขนปุยเป็นอย่างมาก แต่ข้อเสียคือ “ติดฟันง่าย” หลังจากทานแล้วเจ้าของควรแปรงฟันให้เขาด้วยนะคะ นอกจากนี้อย่าลืมใส่ใจการเลือกขนาดด้วย โดยควรเลือกที่ชิ้นไม่ใหญ่จนเกินไป ไม่อย่างนั้นน้องแมวจะทานยากเอาได้
ขนมประเภทเนื้อแปรรูปอบแห้งส่วนใหญ่แล้วจะมีส่วนผสมจากเนื้อปลา, เนื้อวัว, ผัก, ชีส หรือมันฝรั่ง ซึ่งมีสารอาหารอยู่สูงไม่ต่างจากของสด เช่น วิตามินและเกลือแร่ ปราศจากสีสังเคราะห์และสารกันบูดแต่สามารถเก็บไว้ได้นาน จึงเหมาะกับเจ้าของที่ไม่ชอบซื้อขนมบ่อย ๆ หรือต้องการเสริมสารอาหารให้น้องแมวค่ะ
แบบเส้นมักถูกทำมาจากเนื้อสัตว์หรือเนื้อปลา มีลักษณะเป็นเส้น ๆ ขนาดบาง และถูกตัดเป็นชิ้นพอดีคำ ช่วยให้น้องแมวเพลิดเพลินกับการเคี้ยว แถมยังเก็บรักษาไว้ได้นานเหมือนกับประเภทก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้เพื่อน ๆ ควบคุมโภชนาการดี ๆ นะคะ โดยควรให้ทานทั้งสูตรเนื้อสัตว์และผักเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
แบบนี้เป็นขนมแมวรูปแบบดั้งเดิมที่ให้กันมาตั้งแต่ยังไม่มีเทคโนโลยีแปรรูปอาหารต่าง ๆ มักนิยมนำเนื้อสัตว์หรือเนื้อปลาไปต้มให้สุกแล้วนำไปตากแห้ง หรือผลิตมาจากชีสซึ่งมีกลิ่นหอมเตะจมูกและเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าน้องเมี๊ยว เหมาะกับแมวที่เบื่ออาหาและไม่ค่อยทานขนม
อย่างไรก็ตาม เวลาซื้อต้องระวังอย่าเลือกขนมที่ให้รสเค็มจนเกินไปหรือมีแคลเซียมสูงมากนะคะ เพราะเมื่อแมวทานสะสมเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดโรคได้ นอกจากนี้ยังไม่ควรนำขนมคนโดยเฉพาะพวกชีสมาให้แมวทานด้วย เพราะอาจส่งผลให้เขาท้องเสียเอาได้
บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าน้องแมวสามารถทานนมเป็นของว่างได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของแล้ว ยังบำรุงร่างกายของเขาให้แข็งแรงด้วยค่ะ แต่ต้องระวังอย่าให้ทานมากเกินไปนะคะ ไม่อย่างนั้นจะมีน้ำหนักเกินจนเป็นโรคอ้วนได้ และเพื่อความปลอดภัยของเจ้าขนฟู แนะนำให้ซื้อสูตรสำหรับแมวโดยเฉพาะ อย่าซื้อนมวัวให้เขา เพราะอาจทำให้ท้องเสียได้เหมือนกรณีของชีสนั่นเอง
ถ้าถามว่าของโปรดของน้องเมี๊ยวแทบทุกตัวคืออะไร ทาสแมวหลายคนคงตอบว่า “กัญชาแมว” ใช่ไหมคะ ซึ่งปัจจุบันนี้เขามีแบบเป็นผงละเอียดมาวางจำหน่ายด้วย และด้วยความที่มีลักษณะเป็นผง ทำให้โรยใส่กิ่งไม้สำหรับฝึกคาบหรือที่ฝนเล็บได้ ช่วยให้น้องแมวเพลิดเพลินกับกิจกรรมนั้น ๆ ได้ยาวนาน จึงเหมาะกับให้ระหว่างการฝึก แต่ไม่แนะนำสำหรับน้องแมวที่ผ่านการทำหมันหรือผ่าตัดมานะคะ เพราะจะกัดแทะยาก เปลี่ยนไปให้ประเภทอื่นจะดีกว่า
เพื่อสุขภาพที่ดีแนะนำให้หลีกเลี่ยงขนมแมวที่ใส่สารเติมแต่งเยอะ เช่น สีสังเคราะห์หรือสารกันบูดนะคะ ซึ่งส่วนมากมักจะมีราคาถูก ไม่อย่างนั้นน้องแมวอาจท้องเสียหรืออาเจียนได้
สำหรับใครที่อยากให้ขนเจ้าเมี๊ยวมีสุขภาพดี แนะนำให้ซื้อสูตรที่มีตัวยาหรือสารบำรุงดังกล่าวโดยเฉพาะ เพื่อการดูแลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนน้องแมวของใครที่ไม่ชอบการแปรงฟัน หรือเจ้าของคนไหนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลจริง ๆ ให้ซื้อสูตรที่ถูกออกแบบให้มีรูปร่างช่วยขัดคราบต่าง ๆ ออกจากฟันแทนนะคะ
หลายคนมักจะเข้าใจว่าขนมแมวมีแคลอรี่น้อย ทานแล้วน้องคงไม่อ้วน แต่อาหารทุกอย่างล้วนให้พลังงานอยู่แล้วค่ะ จึงควรระมัดระวังปริมาณที่ให้ต่อครั้งและความถี่ที่ให้ด้วย โดยเฉพาะนมและชีส
โดยทั่วไปแล้วสัดส่วนของแคลอรี่ที่มาจากขนมไม่ควรเกิน 20% เมื่อเทียบกับพลังงานที่ต้องใช้ใน 1 วัน อย่างแมวโตเต็มวัยควรจะได้รับพลังงาน 70-80 kcal/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับช่วงอายุและกิจกรรมของเขาด้วยนะคะ เช่น แมวถูกเลี้ยงในบ้าน หนัก 4 กิโลกรัม ปริมาณแคลอรี่ที่ควรได้รับใน 1 วัน คือ 280 kcal ดังนั้นส่วนที่ได้มาจากขนมจึงไม่ควรเกิน 56 kcal นั่นเองค่ะ
ใครที่กังวลว่าจะกะปริมาณที่ให้ในแต่ละครั้งไม่ถูก เดี๋ยวน้องแมวจะอ้วนเกินไป ให้มองหาสินค้าที่แบ่งขนมเป็นซองย่อย ๆ ค่ะ เพราะส่วนใหญ่ผู้ผลิตเขากำหนดปริมาณมาอย่างพอดิบพอดีต่อการทาน 1 ครั้งแล้ว แถมยังเก็บรักษาง่ายอีกด้วย ในกรณีที่ขนมที่ถูกใจไม่ได้ถูกแยกเป็นซอง ก่อนการเลือกซื้ออย่าลืมเช็คปากถุงด้วยนะคะว่าซีลเรียบร้อยหรือเปล่า จะไม่ได้ไม่ต้องเป็นภาระหากล่องกันความชื้นใส่ในภายหลัง
แมวก็เหมือนกับคนเรา ถ้าให้ทานอาหารซ้ำซากทุกวันติดต่อกันนาน ๆ ก็คงจะเบื่อ หรือแม้แต่การลองทานครั้งแรก แน่นอนว่าเราก็ยังไม่รู้ว่าเจ้าเมี๊ยวจะชอบรสไหน การซื้อขนมที่รวมรสมาเลยจึงดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ตอนนี้หลายคนคงรู้แล้วว่าควรเลือกขนมอย่างไรให้เหมาะกับน้องแมวที่บ้าน และคงอยากรู้กันแล้วว่ามีขนมรุ่นไหนจากแบรนด์ใดที่ได้รับความนิยมสูง เจ้าของชอบซื้อ เจ้าเมี๊ยวชอบทาน ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ไปอ่านข้อมูลที่น่าสนใจกันเลยดีกว่าค่ะ
เซ็ตเนื้อปลาทูน่าและสันในไก่ที่ถูกเพิ่มคุณประโยชน์ด้วยสารสกัดจากชาเขียว จึงอุดมไปด้วยวิตามินอี ช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายของน้องเมี๊ยว ก่อนจะนำมาย่างให้สุกพอเหมาะ พร้อมปรุงรสให้อร่อยยิ่งขึ้น รวมหลากหลายรสชาติในเซ็ตเดียว ได้แก่ รสหอยเชลล์, ปลาอบแห้งและน้ำสต็อก บรรดาเจ้าของที่ซื้อไปต่างบอกว่าน้องแมวชื่นชอบมาก แต่ราคาอาจจะสูงนิดนึง
ขนมรสเนื้อแกะที่ถูกคิดค้นและพัฒนาสูตรโดยนักโภชนาการผู้รักแมว ทำให้ได้เป็นขนมแมวที่อุดมไปด้วยทอรีน กรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อร่างกายเจ้าเมี๊ยว, โอเมก้า 3 และ 6 ช่วยควบคุมก้อนขน ปราศจากเนื้อและมันของหมู มี 4 รูปร่างในห่อเดียว พร้อมสัมผัสกรุบกรอบที่ช่วยเพิ่มความอร่อยและทำความสะอาดฟันของน้องแมวไปในคราเดียว นอกจากนี้ยังมีหลายรสให้เลือกซื้อ
สูตรนี้โดดเด่นเพราะมีหลายรสให้เลือกซื้อ ซึ่งแต่ละรสผลิตมาจากเนื้อสัตว์เน้น ๆ ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน สะอาดและปลอดภัย อุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ เช่น ทอรีน ช่วยในการมองเห็นและการทำงานของหลอดเลือดหัวใจ, วิตามินอี ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ, โอเมก้า 3,6 บำรุงผิวหนังและขนให้มีสุขภาพดี และแร่ธาตุอื่น ๆ ที่จำเป็น ไม่ว่าน้องแมวตัวไหน ๆ ต่างก็หลงรัก
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าล่าสุดทางแบรนด์ได้ปรับแพ็กเกจใหม่แล้วนะคะ ใครที่เพิ่งเห็นอย่าได้ตกใจไป คุณภาพยังคับถุงเหมือนเดิม มีส่วนผสมหลักจากปลาทะเล คลุกเคล้ากับเนื้อไก่ พร้อมเสริมด้วยวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามินอี, ไนอาซิน, วิตามินเอ, วิตามินบี 12 และวิตามินดี 3 ช่วยบำรุงร่างกายของเจ้าเมี๊ยวให้มีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งได้รับการยอมรับจาก AAFCO (สมาคมควบคุมอาหารสัตว์อเมริกา) แล้วว่าเพียงพอกับน้องแมว
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนแพ็กเกจใหม่ค่ะ เป็นของแบรนด์เครือเดียวกับ Whiskas นั่นเอง โดยสูตรนี้มีจุดเด่นอยู่ที่แคลอรี่น้อยมาก เพียงแค่ 2 แคลอรี่ต่อชิ้นเท่านั้น แต่กลับอุดมได้ด้วยคุณประโยชน์ เช่น วิตามินอี, วิตามินบี 12, ไนอาซิน, วิตามินดี 3 และวิตามินบี 6 พร้อมแร่ธาตุต่าง ๆ ช่วยบำรุงร่างกายและควบคุมปริมาณหินปูนที่เกาะตามฟันของเจ้าขนฟู นอกจากนี้ยังมีหลายรสให้เลือกทานได้ไม่ซ้ำเลยค่ะ
ขนมสูตรนี้โดดเด่นด้วยส่วนผสมหลักจากทูน่า พร้อมเพิ่มรสชาติด้วยกุ้งและปลาหมึก ก่อนจะเสริมคุณค่าทางอาหารด้วยวิตามินอี, ทอรีน, โอลิโกแซคคาไรด์ และน้ำมันปลา ช่วยสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ปราศจากสีสังเคราะห์และสารกันเสีย โดยบรรจุมาในรูปแบบซองแยกย่อย ง่ายต่อการทาน สามารถกำหนดปริมาณที่ให้ในแต่ละครั้ง และเก็บรักษาง่าย นอกจากนี้ยังมีให้เลือกหลายรส น้องแมวต่างชื่นชอบ
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูง น้องแมวต่างชื่นชอบ ด้วยส่วนผสมหลักจากเนื้อปลาและเนื้อไก่คุณภาพสูง พร้อมแต่งรสเพิ่มเติมให้น่ารับประทานมากขึ้น มีหลายรสให้เลือกซื้อ โดยสูตรที่ขายดีที่สุดนี้รวมรสทูน่าและทูน่า+ซีฟู๊ดค่ะ บรรจุมาในซองย่อยเล็ก ๆ ช่วยให้ป้อนง่ายขึ้นและจำกัดการทานแต่ละครั้งได้ดี นอกจากนี้ยังเก็บรักษาง่ายอีกด้วย ใครที่เพิ่งลองซื้อขนมแมวครั้งแรก แนะนำให้ซื้อขนมนี้เลยค่ะ
เข้าสู่ 3 อันดับสุดท้ายซึ่งเป็นที่จับตามอง โดยสูตรนี้ผลิตมาจากเนื้อปลาแท้ ๆ อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ปริมาณโปรตีนเน้น ๆ ถึง 27% มากที่สุดเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบการสารอาหารอื่น ๆ มีให้เลือกหลายรสชาติ แถมราคายังย่อมเยาจึงได้รับความนิยมจากบรรดาเจ้าของ ขณะเดียวกันน้องแมวก็เอร็ดอร่อยกับรสชาติด้วยค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกเพื่อน ๆ ว่าแบรนด์นี้ชื่อว่า Ciao นะจ๊ะ มีขนมแมวอยู่มากมายหลายแบบ โดย Churu เป็นหนึ่งในนั้น ผลิตมาจากเนื้อปลาทูน่าแท้ ๆ ผสมน้ำมันจากพืชและสารสกัดจากชาเขียว จึงอุดมไปด้วยวิตามินอีและแร่ธาตุต่าง ๆ ช่วยบำรุงสุขภาพให้แข็งแรง โดยให้แคลอรี่เพียงแค่ 7 kcal/ซอง เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีหลายรสชาติให้เลือกซื้อด้วยค่ะ ไม่ว่าน้องแมวบ้านไหน ๆ ต่างก็ติดใจ
มาถึงอันดับที่ 1 ของเรา สูตรนี้พิเศษด้วยการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ พร้อมเสริมวิตามินและแร่ธาตุช่วยบำรุงสุขภาพ ได้แก่ ทอรีน, ซิงค์, โอเมก้า 3 และ 6 โดยบรรจุมาในรูปแบบซอง สะดวกต่อการให้และเก็บรักษา แถมยังมีหลายรสชาติให้เลือก ซึ่งรสทูน่าเป็นที่นิยมมากที่สุด น้องแมวต่างชื่นชอบล้วนติดใจอยากขอทานอีกค่ะ
มากกว่าการเป็นขนมเพื่อให้น้องแมวทานแล้ว ผลิตภัณฑ์นี้ยังเป็นตัวกลางที่ทำให้เจ้าของและสัตว์เลี้ยงได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นผ่านการป้อนหรือฝึกฝนและหยอกล้อ ดังนั้นนอกเหนือจากการซื้อเพื่อรับประทาน ใครที่อยากมีช่วงเวลาสนุก ๆ กับแมวมากขึ้นก็ลองซื้อไปดูนะคะ
วิธีการเลือกก็ไม่ยาก แค่ดูจากช่วงอายุของเจ้าขนฟูของเราเป็นหลัก ตามด้วยความชอบของเขา เท่านี้เราก็จะได้ผลิตภัณฑ์ที่เขาน่าจะโปรดปรานที่สุดแล้วค่ะ สุดท้ายนี้คงต้องลากันไปก่อน หวังว่าเพื่อน ๆ จะชื่นชอบบทความนี้นะคะ ไว้พบกันใหม่โอกาสหน้า
